การค้นหาขั้นสูง
ผู้เยี่ยมชม
7997
อัปเดตเกี่ยวกับ: 2554/12/21
 
รหัสในเว็บไซต์ fa17054 รหัสสำเนา 19935
หมวดหมู่ تاريخ بزرگان
คำถามอย่างย่อ
สาเหตุของการตั้งฉายานามท่านอิมามริฎอ (อ.) ว่าผู้ค้ำประกันกวางคืออะไร?
คำถาม
สาเหตุของการตั้งฉายานามท่านอิมามริฎอ (อ.) ว่าผู้ค้ำประกันกวางคืออะไร?
คำตอบโดยสังเขป

หนึ่งในฉายานามที่มีชื่อเสียงของท่านอิมามริฎอ (.) คือ..”ผู้ค้ำประกันกวางเรื่องเล่านี้เป็นเรื่องที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในหมู่ประชาชน,แต่ไม่ได้ถูกบันทึกอยู่ในตำราอ้างอิงของฝ่ายชีอะฮฺแต่อย่างใด, แต่มีเรื่องเล่าที่คล้ายคลึงกับเรื่องนี้อย่ ซึ่งมีได้รับการโจษขานกันภายในหมู่ซุนนีย, ถึงปาฏิหาริย์ที่พาดพิงไปยังเราะซูล (ซ็อล ), อิมามซัจญาดและอิมามซอดิก (.),ท่านเชคซะดูกได้บันทึกบันทึกรายงานนี้ไว้ในหนังสือ อุยูนุลอัคบาร อัรริฎอ แต่ท่านได้บันทึกเรื่องราวไว้อีกลักษณะหนึ่ง ซึ่งจะกล่าวถึงในคำตอบโดยละเอียด.ผู้ที่ให้การความสนใจเฝ้าสังเกตว่าเรื่องราวนี้ได้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ท่านอิมามริฎอ (.) ได้ชะฮีดไปประมาณ 2- 3 ปี ดังที่กล่าวไปแล้วว่า, เรื่องเล่าคล้ายๆ กันได้เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของอิมามมะอฺซูมท่านอื่น แน่นอน การกล่าวถึงประเด็นเหล่านี้ถือว่าจำเป็นด้วยเหมือนกัน คือ เชคซะดูกได้เชื่อความน่าเชื่อถือของผู้ที่รายงานเรื่องเล่านี้

คำตอบเชิงรายละเอียด

หนึ่งในฉายานามอันลือชื่อของท่านอิมามริฎอ (.) คือ ซึ่งสาเหตุของการตั้งฉายานามนี้แก่ท่านอิมาม (.) มีที่มาที่ไปของประวัติศาสตร์โดยกล่าวสรุปได้เชนนี้ว่า :

นักล่าสัตว์กลางทะเลทรายได้ตั้งใจออกล่ากวาง แล้วเขาได้มองเห็นกวางเหยื่อตัวน้อยของเขาตั้งแต่ไกลแล้ว เขาจึงได้ไล่ล่ามาติดๆ สุดท้ายกวางตัวนั้นได้เข้าไปซ่อนอยู่ในผ้าคุมของท่านอิมามริฎอ (.) ที่เผอิญอยู่บริเวณนั้นพอดี นักล่าสัตว์ได้ตรงเข้าไปเพื่อขอกวางจากท่านอิมามริฎอ (.) แต่ท่านอิมามได้ขอร้องเขาว่าให้ปล่อยกวางไปเถิด, นักล่าสัตว์คนนั้นไม่ยอมเพราะเขาถือว่ากวางนั้นเป็นสิทธิอันชอบธรรมของเขา และเขาก็ล่าอย่างถูกต้องตามหลักชัรอียฺด้วย, เขาจึงได้อ้างหลักการเพื่อขอกวางจากท่านอิมามริฎอ (.), ท่านอิมาม (.) ได้ขอไถ่กวางตัวนั้นด้วยราคาค่อนข้างแพงกว่าราคากวาง, และพร้อมที่จะจ่ายจำนวนเงินดังกล่าวด้วยเพื่อจะไถ่กวางให้เป็นอิสระ, แต่นักล่าสัตว์คนนั้นไม่ยอมรับ เขากล่าวขึ้นว่า : ขอสาบานด้วยพระนามอัลลอฮฺว่า, ฉันต้องการกวางตัวนี้เพราะเป็นสิทธิของฉัน และไม่ต้องการสิ่งอื่นใดเป็นการแลกเปลี่ยนด้วย ... เวลานั้นกวางได้กล่าวกับท่านอิมามริฎอ (.) ว่า ฉันมีลูกที่ต้องดูแลให้นมอีกสองตัว กำลังหิวและดวงตาของเจ้าสองตัวนั้นก็ยังมองไม่เห็น ขอให้ฉันไปให้นมลูกให้อิ่มเสียก่อนได้ไหม ซึ่งสาเหตุที่ฉันวิ่งหนีเขาก็เพราะเรื่องนี้นั่นเอง ดังนั้น ฉันยากให้ท่านช่วยเป็นผู้คำประกันฉันกับนักล่าคนนี้ด้วย และขออนุญาตให้ฉันไปให้นมลูกก่อน หลังจากนั้นฉันจะมายอมจำนนกับเขาได้หรือไม่

ท่านอิมามริฎอ (.) ได้เป็นผู้ค้ำประกันกวางตัวนั้นต่อนักล่าสัตว์ โดยยอมมอบตัวเองเป็นตัวประกันอยู่ในความดูแลของนักล่าสัตว์, กวางได้รีบไปและรีกกลับมาอย่างเร่งด่วนและยอมมอบตัวเองต่อนักล่าสัตว์, เมื่อนักล่าสัตว์ได้เห็นความซื่อสัตย์ของกวางที่ปฏิบัติตามสัญญาเช่นนั้น, เขาได้เปลี่ยนใจและเวลานั้นเขาเพิ่งจะเข้าใจว่าตัวประกันของเขาคือ อะลี บุตรของมูซา อัรริฎอ (.) เป็นที่ชัดเจนว่าเขาได้รีบปล่อยกวางอย่างรวดเร็ว แล้วรีบจุมพิตมือและเท้าของท่านอิมามริฎอ (.) ทันที เขาได้วอนขออภัยจากท่านอิมาม, ท่านอิมาม (.) ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งแก่เขา และสัญญาว่าเขาจะได้รับชะฟาอะฮฺจากท่านตาของท่านในวันฟื้นคืนชีพ ท่านได้ทำให้นักล่าสัตว์คนนั้นดีใจเป็นอย่างยิ่งและเขาก็ได้ลาจากไป, กวางเมื่อได้รับอิสรภาพแล้วก็ดีใจจึงได้ขออนุญาตท่านอิมามกลับไปยังลูกของมัน

เกี่ยวกับเรื่องเล่านี้มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่สองสามประเด็นกล่าวคือ :

1.แม้ว่าเรื่องเล่าดังกล่าวนี้มิได้มีกล่าวไว้ในตำราเชื่อถือได้ของฝ่ายชีอะฮฺก็ตาม, แต่มีเรื่องเล่าอื่นที่คล้ายคลึงกับเรื่องเล่านี้ ซึ่งเป็นที่โจษขานกันในฝ่ายซุนนียฺ, เกี่ยวกับปาฏิหาริย์หนึ่งโดยพาดพิงไปถึงท่านศาสดา (ซ็อล ),[1] ท่านอิมามซัจญาด (.)[2] และท่านอิมามซอดิก (.)[3]

2.ท่านเชคซะดูก ได้บันทึกเรื่องเล่านี้ไว้ในหนังสือ อัลอุยูนุลอัคบาร อัรริฎอ (.) โดยบันทึกเรื่องเล่าไว้เช่นนี้ว่า :

อบุลฟัฏล์ มุฮัมมัด บินอะฮฺมัน บิน อิสมาอีล สะลีฏียฺ กล่าวว่า : ฉันได้ยินจากฮากิม รอซีย์ สหายของท่านญะอฺฟัร อะตะบีย์ ซึ่งเขาได้พูดว่า ฉันได้ถูกส่งตัวไปจาก อบูญะอฺฟัร ในฐานะของผู้ถือสาส์น ไปยังอบูมันซูร บิน อับดุลเราะซาก, และวันพฤหัสฉันได้ขอลาเขาเพื่อไปซิยารัตท่านอิมามริฎอ (.), เขาได้ตอบฉันว่า สิ่งที่ได้เกิดในมัชฮัดใกล้กับหลุมฝังศพของอิมามริฎอ ซึ่งได้เกิดกับฉันนั้น ฉันจะเล่าให้เธอฟัง : วันหนึ่งขณะที่ฉันยังเป็นวัยรุ่นอยู่นั้น ฉันไม่เคยมีความคิดดีๆ เกี่ยวกับผู้ที่รักใคร่และหลงใหลมัชฮัดเลย ในระหว่างทางฉันชอบปล้นสะดม ทรัพย์สินผู้เดินทางมาซิยารัตมัชฮัด,ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เงินทอง จดหมาย หรือเงินทำบุญของพวกเขา, แต่มาในวันหนึ่งฉันได้ออกไปล่าสัตว์ข้างนอก ฉันได้เห็นเสื้อชีต้าตัวหนึ่งกำลังวิ่งไล่ล่ากวางตัวน้อย และฉันก็วิ่งตามไป จนในที่สุดกวางตัวนั้นได้ไปหลบอยู่ข้างๆ ผนังหนึ่ง ซึ่งเสื้อชีต้าก็ยืนอยู่ตรงหน้ามัน แต่ไม่ได้เข้าไปใกล้หรือทำอันตรายกวางแต่อย่างใด ฉันพยายามทำเพื่อจะให้เสือชีต้าเข้าไปใกล้กวางตัวนั้น, แต่มันก็ไม่เข้าไปใกล้กวางและไม่กระดุกกระดิกไปไหนด้วย, แต่เมื่อกวางค่อยๆ ขยับหายพ้นไปจากผนัง เสือชีต้าก็มิได้ไล่ล่าอีกต่อไป, แต่การที่กวางได้เข้าไปหลบที่ผนัง, เสือชีต้าได้กลับออกมา จนกระทั่งกวางได้หายเข้าไปในซอก, ซึ่งภายในผนังนั้นพบว่ามีหลุมฝังศพอยู่ และฉันได้เดินเข้าไปป้อมยาม[4] ถามเขาว่า : ท่านเห็นกวางตัวหนึ่งที่เพิ่งจะเดินผ่านป้อมยามไปหรอไม่? พวกเขากล่าวว่า : พวกเราไม่เคยเห็นกวางเลย.

เวลานั้นฉันได้กลับไปตรงบริเวณที่กวางเดินเข้าไปฉันได้เห็นมูลและรอยปัสสาวะของกวาง, แต่กลับมองไม่เห็นตัวกวาง, หลังจากนั้นฉันได้สัญญาต่อพระเจ้าว่าหลังจากนี้ต่อไป ฉันจะไม่ปล้นสะดมผู้เดินทางมาซิยารัตอีก แต่ฉันจะประพฤติดีกับพวกเขาทุกคน หลังจากนั้นเรื่อยมา,เมื่อใดก็ตามที่ฉันประสบกับอุปสรรคปัญหาความยุ่งยาก หรือประสบทุกข์ในชีวิต, ฉันจะไปมัชฮัด, เพื่อซิยารัตและวอนขอสิ่งที่เป็นความยุ่งยาก ตลอดจนความต้องการอื่นๆ จากอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงตอบรับและขจัดความทุกข์ยากเหล่านั้นให้พ้นไปจากฉัน ฉันได้วอนขอต่ออัลลอฮฺ (ซบ.) ว่า ขอพระองค์โปรดประทานบุตรชายแก่ฉัน, และแล้วพระองค์ก็ประทานบุตรชายให้ฉัน, แต่ต่อมาเมื่อบุตรชายของฉันได้เติบโตเป็นหนุ่มแล้ว เขาก็ได้ตายจากฉันไป, ฉันได้ย้อนกลับไปมัชฮัดอีกครั้งหนึ่ง และวอนขอบุตรชายต่ออัลลอฮฺ เหมือนเดิม และพระองค์ทรงเมตตาให้บุตรชายแก่ฉันอีกคนหนึ่ง,และฉันไม่เคยขอสิ่งใดจากอัลลอฮฺ (ซบ.) แล้วจะไม่ได้รับการตอบสนองจากพระองค์เลย และเหล่านี้คือสิ่งที่ตัวฉันได้ประสบในมัชฮัด นับว่าเป็นความสิริมงคลของมัชฮัด ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดสำหรับฉันมาก และฉันก็เชื่อถือต่อสิ่งเหล่านี้[5]

ผู้สนใจได้ให้การสังเกตเรื่องเล่านี้และพบว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากท่านอิมามริฎอ (.) ได้ชะฮีดไปแล้วสองสามปี และดังที่กล่าวไปแล้ว, ว่ามีเรื่องเล่าทำนองคล้ายๆ กันนี้ที่เกิดกับบรรดาอิมามมะอฺซูม (.) มากมาย, แน่นอน การกล่าวถึงประเด็นเหล่านี้ถือว่าจำเป็นด้วยเหมือนกัน คือ เชคซะดูกได้เชื่อความน่าเชื่อถือของผู้ที่รายงานเรื่องเล่านี้.



[1] เฏาะบัรซียฺ, ฟัฎลิบนิฮะซัน, อิอฺลามุลวะรอ, หน้า 25,ดารุลกุตุบอัลอิสลามียะฮฺ, เตหะราน.

[2] กุฏบุดดีน รอวันดี, อัลเคาะรออิจญฺ วัลญะรออิจญฺ, เล่ม 1 หน้า 261, สถาบันอิมามมะฮฺดียฺ (อ.) กุม ปี ฮ.ศ.1409.

[3] เซาะฟาร,มุฮัมมัด บุตรของฮะซัน,บะซออิรุดดะเราะญาต, หน้า 349, ห้องสมุดอายะตุลลอฮฺมัรอะชียฺ, กุม ปี ฮ.ศ. 1404.

[4] คำว่า “รุบาฏ” ความหมายเดิมหมายถึง บริเวณเก็บดูแลม้า หรือเรียกอีกอย่างว่า คอกม้า เพื่อรักษาม้าเหล่านั้นไว้ออกศึกสงคราม หรือหมายถึงพรมแดนรักษาเขตของมุสลิม, แต่ต่อมาได้นำคำนี้ไปใช้ในความหมายที่แตกต่างกัน เช่น หมายถึงจุดพักของกองคาราวานที่เดินทางมา หรือสถานปฏิบัติตนของพวกซูฟียฺ

[5] เชคซะดูก, อุยูนุลอัคบาร อัรริฎอ, เล่ม 2 หน้า 285, เฌะฮอน, ปี ฮ.ศ. 1378.

แปลคำถามภาษาต่างๆ
ความเห็น
จำนวนความเห็น 0
กรุณาป้อนค่า
ตัวอย่าง : Yourname@YourDomane.ext
กรุณาป้อนค่า
<< ลากฉัน
กรุณากรอกจำนวนที่ถูกต้องของ รหัสรักษาความปลอดภัย

คำถามสุ่ม

  • มุคตารคือ ษะกะฟีย์ ซึ่งในหัวใจมีความรักให้ท่านอบูบักร์และอุมมัรเท่านั้น? แล้วทำไมเขาจึงไม่ปกป้องท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) ในกัรบะลาอฺ?
    8269 تاريخ بزرگان 2554/12/21
    รายงานเกี่ยวกับมุคตารที่ปรากฏอยู่ในตำราฮะดีซนั้นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มกล่าวคือรายงานบางกลุ่มกล่าวสรรเสริญเขา
  • ขณะลงซัจญฺดะฮฺ จะต้องเอาอวัยวะส่วนใดลงพื้นก่อนซัจญฺดะฮฺ?
    5868 สิทธิและกฎหมาย 2555/05/17
    การซัจญฺดะฮฺเป็นหนึ่งในวาญิบของนมาซ, ซึ่งมีองค์ประกอบและเงื่อนไขวาญิบและมุสตะฮับหลายประการ, เช่น หนึ่งในบางประการที่ถือว่าเป็นมุสตะฮับของซัจญฺดะฮฺ, กล่าวคือ ชาย ขณะลงซัจญฺดะฮฺให้เอาฝ่ามือลงก่อน, ส่วนหญิงให้เอาเข่าลงก่อน[1] [1] อิมามโคมัยนี, เตาฎีฮุลมะซาอิล (มะฮัชชี), ผู้ตรวจทานและค้นคว้า : บนีฮาชิมมี โคมัยนี, ซัยยิดมุฮัมมัด ฮุซัยน, เล่ม 1, หน้า 591, ดัฟตัรอินเตะชารอต อิสลามี, กุม, พิมพ์ครั้ง 8, ปี ฮ.ศ. 1424
  • คำอธิบายอัลกุรอาน บทอัฏฏีน จากตัฟซีรฟะรอต มีฮะดีซบทหนึ่งกล่าวว่า วัตถุประสงค์ของคำว่า ฏีน หมายถึงอิมามฮะซัน (อ.) และวัตถุประสงค์ของ ซัยตูน คืออิมามฮุซัยนฺ (ฮ.) ถามว่าฮะดีซเหล่านี้ และฮะดีซที่คล้ายคลึงกันเชื่อถือได้หรือไม่?
    10330 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/05/20
    อัลกุรอาน นอกจากจะมีความหมายภายนอกแล้ว,เป็นไปที่ว่าอาจมีความหมายภายในซ่อนเร้นอยู่อีก เช่น ความหมายภายนอกของคำว่า ฏีนและซัยตูน ซึ่งอัลลอฮฺ กล่าวไว้ในโองการที่ 1 และ 2 ของบท ฏีนว่า ขอสาบานด้วยพวกเขาว่า, สามารถกล่าวได้ว่าอาจหมายถึงผลมะกอก และมะเดื่อตามที่ประชาชนทั้งหลายเข้าใจ กล่าวคือ ผลมะกอกและมะเดื่อ ที่มาจากต้นมะกอกและต้นมะเดื่อ, แต่ขณะเดียวกันก็สามารถกล่าวถึงความหมายด้านในของโองการได้ ซึ่งสองสิ่งที่ฮะดีซพาดพิงถึงคือ ท่านอิมามฮะซันและอิมามฮุซัยนฺ (อ.) เป็นผลไม้จากต้นวิลายะฮฺ[1] ทำนองเดียวกัน สามารถกล่าวได้ว่า โองการยังมีวัตถุประสงค์อื่นอีก, ดังที่รายงานฮะดีซก็กล่าวถึงสิ่งนี้เอาไว้, ซึ่งวัตถุประสงค์จาก ฏีน หมายถึง เมืองแห่งเราะซูล ส่วนวัตถุประสงค์ของ ซัยตูน หมายถึง บัยตุลมุก็อดดิส กิบละฮฺแห่งแรกของมวลมุสลิม[2] ตัฟซีรกุมมีกล่าวว่า ...
  • เหตุใดนบีและบรรดาอิมามจึงไม่ประพันธ์ตำราฮะดีษเสียเอง?
    5820 ริญาลุลฮะดีซ 2555/01/19
    อัลลอฮ์ลิขิตให้ท่านนบีมิได้เล่าเรียนจากครูบาอาจารย์คนใดจึงไม่อาจจะเขียนหนังสือได้เหตุผลก็ค่อนข้างชัดเจนเนื่องจากอภินิหารของท่านคือคัมภีร์อัลกุรอานและเนื่องจากไม่ไช่เรื่องแปลกหากผู้มีการศึกษาจะเขียนหนังสือสักเล่มอาจจะทำให้เกิดข้อครหาว่าคัมภีร์กุรอานเป็นความคิดของท่านนบีเองหรือครูบาอาจารย์ของท่านส่วนกรณีของบรรดาอิมามนั้นนอกจากท่านอิมามอลี(อ.)และอิมามซัยนุลอาบิดีน(อ.)แล้วอิมามท่านอื่นๆมิได้มีตำราที่ตกทอดถึงเราทั้งนี้ก็เพราะภาระหน้าที่ทางสังคมหรืออยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมหรือการที่มีลูกศิษย์คอยบันทึกอยู่แล้ว ...
  • ประชาชนชาวเมืองกุมไม่ว่าจะกระทำผิดเพียงใดก็จะไม่ถูกลงโทษในไฟนรกกระนั้นหรือ?
    5265 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/11/21
    1.รายงานฮะดีซที่เกี่ยวข้องกับเมืองกุม, ที่ว่าประชาชนชาวกุมจะไม่ตกนรกนั้นไม่ถูกต้อง.2.การรู้จักมักคุ้นกับลูกหลานของท่านศาสดา (ซ็อล
  • กะฟาะเราะฮฺเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามพันธสัญญาหมายถึงอะไร?
    6447 สิทธิและกฎหมาย 2554/06/21
    ถ้าหากบุคคลหนึ่ง (ด้วยเงื่อนไขสำหรับการทพำพันธสัญญาซึ่งมีกล่าวไว้ในริซาละฮฺต่างๆของเตาฎีฮุลมะซาอิลของมะรอญิอฺตักลีดกล่าวไว้[1]) เขาได้สัญญาต่ออัลลอฮฺ (ซบ.) แต่ไม่ได้ทำตามข้อสัญญานั้น (ซึ่งไม่แตกต่างกันว่าเขาได้สัญญาว่าจะกระทำหรือจะละเว้นสิ่งนั้น) ต้องจ่ายกะฟาะเราะฮฺหมายถึงเลื้องอาหารคนจนให้อิ่ม 60 คนหรือถือศีลอดติดต่อกัน 60 วัน[2]
  • กรุณาแจกแจงแนวความคิดของเชคฏูซีในประเด็นการเมือง
    5723 ระบบต่างๆ 2554/10/02
    ทุกยุคสมัยมักมีประเด็นปัญหาใหม่ๆให้นักวิชาการได้ขบคิดและตอบคำถามเรื่อยมาเชคฏูซีก็ถือเป็นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่รับผิดชอบภารกิจนี้อย่างดีเยี่ยมแนวคิดทางการเมืองการปกครองของเชคฏูซีสรุปได้ดังนี้ท่านไม่เห็นด้วยกับการจำแนกศาสนาจากการเมืองท่านใช้ข้อพิสูจน์ทางสติปัญญาชี้ให้เห็นว่าจำเป็นจะต้องมีรัฐบาลและระบอบการปกครองตลอดจนต้องมีผู้นำสูงสุด ท่านวิเคราะห์ประเด็นการเมืองด้วยหลักแห่ง"การุณยตา"(ลุฏฟ์)ของอัลลอฮ์กล่าวคืออัลลอฮ์จะแผ่ความการุณย์ด้วยการตั้งให้มีผู้นำสำหรับมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นนบีหรืออิมามหรือตัวแทนอิมามซึ่งภาวะผู้นำทางการเมืองคือหนึ่งในภารกิจของบุคคลเหล่านี้ในบริบททางวิชาการท่านให้ความสำคัญกับประเด็นภาวะผู้นำทางการเมืองของบรรดาฟะกีฮ์ความสำคัญของประเด็นดังกล่าวในสายตาประชาชนความเชื่อมโยงระหว่างภาวะดังกล่าวกับภาวะผู้นำของอิมามมะอ์ศูมตลอดจนอำนาจหน้าที่ของผู้ปกครองวิถีอิสลามเป็นพิเศษนอกจากนี้การที่ท่านรับเป็นอาจารย์สอนด้านเทววิทยาอิสลามในเมืองหลวงของราชวงศ์อับบาสิด
  • การคบชู้หมายถึงอะไร?
    9767 สิทธิและกฎหมาย 2557/05/22
    การซินา หมายถึง การมีเพศสัมพันธ์โดยผิดประเวณีกับหญิงอื่น ที่มิใช่ภรรยาตามชัรอีย์ (ภรรยาที่สมรสถาวร หรือชั่วคราว) การซินาในทัศนะอัลกุรอาน, ถือเป็นบาปใหญ่ อัลลอฮฺ ตรัสถึงการซินาไว้ว่า “จงอย่าเข้าใกล้การลอบผิดประเวณี เนื่องจากเป็นการลามกและทางอันชั่วช้ายิ่ง”[1],[2] การกระทำดังกล่าว ถ้ากระทำโดยหญิงมีสามี หรือชายมีภรรยาอยู่แล้ว เรียกว่า การเป็นชู้[3] แต่ถ้ามิได้เป็นไปในลักษณะดังกล่าวมา จะไม่ถือว่าเป็นการทำชู้ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทบัญญัติของการซินา และการลงโทษที่จะติดตามมา อันถือว่าเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ และหน้าขยะแขยงยิ่งนี้ กรุณาศึกษาจากคำตอบต่อไปนี้ อย่างไรหรือที่เรียกว่า ซินา, 8243 (ไซต์ 8288) การลงโทษ และการลุแก่โทษ กรณีการทำชู้ 7159 (ไซต์ 7508) ฮุกุ่มของการซินากับหญิงมีสามี 2688 (ไซต์ ...
  • ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้ให้บัยอัตแก่อบูบักรฺ อุมัร และอุสมานหรือไม่? เพราะอะไร?
    9612 เทววิทยาดั้งเดิม 2555/07/16
    ประการแรก: ท่านอิมามอะลี (อ.) และบรรดาสหายกลุ่มหนึ่งของท่าน พร้อมกับสหายของท่านศาสดา มิได้ให้บัยอัตกับท่านอบูบักรฺตั้งแต่แรก แต่ต่อมาคนกลุ่มนี้ได้ให้บัยอัต ก็เนื่องจากว่าต้องการปกปักรักษาอิสลาม และความสงบสันติในรัฐอิสลาม ประการที่สอง: ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นไม่อาจคลี่คลายให้เสร็จสิ้นได้ด้วยคมดาบ หรือความกล้าหาญเพียงอย่างเดียว และมิได้หมายความว่าทุกที่จะสามารถใช้กำลังได้ทั้งหมด เนื่องจากมนุษย์เป็นผู้มีสติปัญญา และฉลาดหลักแหลม สามารถใช้เครื่องมืออันเฉพาะแก้ไขปัญหาได้ ประการที่สาม: ถ้าหากท่านอิมามยอมให้บัยอัตกับบางคน เพื่อปกป้องรักษาสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่า เช่น ปกป้องศาสนาของพระเจ้า และความยากลำบากของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) นั่นมิได้หมายความว่า ท่านเกรงกลัวอำนาจของพวกเขา และต้องการรักษาชีวิตของตนให้รอดปลอดภัย หรือท่านมีอำนาจต่อรองในตำแหน่งอิมามะฮฺและการเป็นผู้นำน้อยกว่าพวกเขาแต่อย่างใด ประการที่สี่ : จากประวัติศาสตร์และคำพูดของท่านอิมามอะลี (อ.) เข้าใจได้ว่า ท่านอิมาม ได้พยายามคัดค้านและท้วงติงพวกเขาหลายต่อหลายครั้ง เกี่ยวกับสถานภาพตามความจริง ในช่วงการปกครองของพวกเขา แต่ในที่สุดท่านได้พยายามปกปักรักษาอิสลามด้วยการนิ่งเงียบ และช่วยเหลืองานรัฐอิสลามเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู ...
  • บุตรีของมุสลิม บิน อะกีลมีชื่อว่าอะไร?
    7180 تاريخ کلام 2554/06/22
    หลังจากได้ศึกษาหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับชีวประวัติของท่านมุสลิมบินอะกีลเข้าใจได้ว่าท่านมุสลิมมีบุตรี 2 คนนามว่าอาติกะฮฺและฮะมีดะฮฺซึ่งอาติกะฮฺอยู่ในเหตุการณ์กัรบะลาอฺด้วยและเธอได้ชะฮีดในวันอาชูรอขณะศัตรูได้บุกโจมตีเต็นท์ต่างๆส่วนฮะมีดะฮฺได้ถูกจับตัวเป็นเชลยพร้อมกับเชลยแห่งกัรบะลาอฺซึ่งตระกูลของมุสลิมได้สืบเชื้อสายมาจากนาง ...

เนื้อหาที่มีผู้อ่านมากที่สุด

  • อะไรคือหน้าที่ๆภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีบ้าง?
    59387 สิทธิและกฎหมาย 2554/07/07
    ความมั่นคงของชีวิตคู่ขึ้นอยู่กับความรักความผูกพัน ความเข้าใจ การให้เกียรติและเคารพสิทธิของกันและกัน และเพื่อที่สถาบันครอบครัวจะยังคงมั่นคงเป็นปึกแผ่น อิสลามจึงได้ระบุถึงสิทธิของทั้งภรรยาและสามี ขณะเดียวกันก็ได้กำหนดหน้าที่สำหรับทั้งสองฝ่ายไว้ด้วย เนื่องจากเมื่ออัลลอฮ์ประทานสิทธิ ก็มักจะกำหนดหน้าที่กำกับไว้ด้วยเสมอ ข้อเขียนนี้จะนำเสนอหน้าที่ทางศาสนาบางส่วนที่ภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีดังต่อไปนี้:1. ...
  • ดุอาใดบ้างที่ทำให้ได้รับพรเร็วที่สุด?
    56840 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/07/03
    มีดุอาที่รายงานจากอิมาม(อ.)หลายบทที่กล่าวขานกันว่าเห็นผลตอบรับอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาดุอาทั้งหมด ณ ที่นี้ได้ จึงขอกล่าวเพียงชื่อดุอาที่มีความสำคัญเป็นพิเศษดังต่อไปนี้1. ดุอาตะวัซซุ้ล2. ดุอาฟะร็อจ
  • กรุณานำเสนอบทดุอาเพื่อให้ได้พบคู่ครองที่เหมาะสมและเปี่ยมด้วยตักวา
    41668 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/06/12
    ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีปัจจัยและเงื่อนไขจำเพาะตามที่พระเจ้าทรงกำหนดหากเราประสงค์สิ่งใดย่อมต้องเริ่มจากการตระเตรียมปัจจัยและเงื่อนไขเสียก่อนปัจจัยของการแต่งงานคือการเสาะหาและศึกษาอย่างละเอียดทว่าเพื่อความสัมฤทธิ์ผลในการดังกล่าวจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์เพื่อทรงชี้นำการตัดสินใจและความพยายามของเราให้บรรลุดังใจหมาย.การอ่านบทดุอาต่างๆที่รายงานจากบรรดาอิมาม(อ)ต้องควบคู่กับความพยายามศึกษาและเสาะหาคู่ครองอย่างถี่ถ้วน. หนึ่งในดุอาที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะก็คือรายงานที่ตกทอดมาจากท่านอลี(อ)ดังต่อไปนี้: “ผู้ใดประสงค์จะมีคู่ครอง
  • ด้วยเหตุผลอันใดที่ต้องกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อน บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม?
    38421 วิทยาการกุรอาน 2555/08/22
    หนึ่งในมารยาทของการอ่านอัลกุรอาน ซึ่งมีกล่าวไว้ในอัลกุรอาน และรายงานฮะดีซคือ การกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อนที่จะเริ่มอ่านอัลกุรอาน หรือแม้แต่ให้กล่าวก่อนที่จะกล่าว บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม เสียด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุผลที่ว่า บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม นั้นเป็นส่วนหนึ่งของอัลกุรอาน อย่างไรก็ตามการขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ มิใช่แค่เป็นเพียงคำพูดเท่านั้น ทว่าสิ่งนี้จะต้องฝังลึกอยู่ภายในจิตวิญญาณของเรา ซึ่งต้องสำนึกสิ่งนี้อยู่เสมอตลอดการอ่านอัลกุรอาน ...
  • ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์(นักเรียนนักศึกษา)มีหน้าที่ต่อกันอย่างไร?
    38415 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/11/14
    ผู้สอนและผู้เรียนมีหน้าที่ต่อกันหลายประการด้วยกันซึ่งสามารถจำแนกออกเป็นสองส่วนก. หน้าที่ที่ผู้สอนมีต่อผู้เรียนอันประกอบด้วยหน้าที่ทางจริยธรรมการอบรมและวิชาการ ข. หน้าที่ที่ผู้เรียนมีต่อผู้สอนอาทิเช่นการให้เกียรติครูบาอาจารย์ยกย่องวิทยฐานะของท่านนอบน้อมถ่อมตน ...ฯลฯ ...
  • ก่อนการสร้างนบีอาดัม(อ) เคยมีการแต่งตั้งญินให้เป็นศาสนทูตสำหรับฝ่ายญินหรือไม่?
    33448 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/06/12
    อัลกุรอานยืนยันการมีอยู่ของเหล่าญินรวมทั้งได้อธิบายคุณลักษณะบางประการไว้ถึงแม้ว่าข้อมูลของเราเกี่ยวกับโลกของญินจะค่อนข้างจำกัดแต่เราสามารถพิสูจน์ว่าเหล่าญินเคยมีศาสนทูตที่เป็นญินก่อนการสร้างนบีอาดัมโดยอาศัยเหตุผลต่อไปนี้:1. เหล่าญินล้วนมีหน้าที่ทางศาสนาเฉกเช่นมนุษย์เราแน่นอนว่าหน้าที่ทางศาสนาย่อมเป็นผลต่อเนื่องจากการสั่งสอนศาสนาด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจได้ว่าอัลลอฮ์ทรงเคยแต่งตั้งศาสนทูตสำหรับกลุ่มชนญินเพื่อการนี้2. เหล่าญินล้วนต้องเข้าสู่กระบวนการพิพากษาในวันกิยามะฮ์เฉกเช่นมนุษย์เราซึ่งโดยทั่วไปแล้วก่อนกระบวนการพิพากษาทุกกรณีจะต้องมีการชี้แจงข้อกฏหมายจนหมดข้อสงสัยเสียก่อนและการชี้แจงให้หมดข้อสงสัยคือหน้าที่ของบรรดาศาสนทูตนั่นเอง
  • เนื่องจากอัลลอฮฺทรงรอบรู้เหนือโลกและจักรวาล ฉะนั้น วัตถุประสงค์การทดสอบของอัลลอฮฺคืออะไร?
    27537 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/03/08
    ดังที่ปรากฏในคำถามว่าการทดสอบของอัลลอฮฺไม่ได้เพื่อการค้นหาสิ่งที่ยังไม่รู้เนื่องจากอัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงปรีชาญาณเหนือทุกสรรพสิ่งแต่อัลกุรอานหลายโองการและรายงานที่ตกมาถึงมือเรากล่าวว่าการทดสอบเป็นแบบฉบับหนึ่งและเป็นกฎเกณฑ์ของพระเจ้าที่วางอยู่บนแบบฉบับอื่นๆอันได้แก่การอบบรมสั่งสอนการชี้นำโดยรวมของพระเจ้าอัลลอฮฺ
  • ปีศาจ (ซาตาน) มาจากหมู่มะลาอิกะฮฺหรือญิน ?
    27233 การตีความ (ตัฟซีร) 2553/12/22
    เกี่ยวกับคำถามที่ว่าชัยฎอนเป็นมะลาอิกะฮฺหรือญินมีมุมมองและทัศนะแตกต่างกันแหล่งที่มาของความขัดแย้งนี้เกิดจากเรื่องราวการสร้างนบีอาดัม (อ.) เนื่องจากเป็นคำสั่งของพระเจ้ามวลมะลาอิกะฮ์ทั้งหลายจึงได้กราบสุญูดอาดัมแต่ซาตานไม่ได้ก้มกราบบางคนกล่าวว่าชัยฎอน (อิบลิส) เป็นมะลาอิกะฮฺ, โดยอ้างเหตุผลว่าเนื่องจากโองการอัลกุรอานกล่าวละเว้น, อิบลิสไว้ในหมู่ของมะลาอิกะฮฺ (มะลาอิกะฮ์ทั้งหมดลดลงกราบยกเว้นอิบลิส) ดังนั้นอิบลิส
  • อายะฮ์ إِذا مَا اتَّقَوْا وَ آمَنُوا وَ عَمِلُوا الصَّالِحاتِ ثُمَّ اتَّقَوْا وَ آمَنُوا ثُمَّ اتَّقَوْا وَ أَحْسَنُوا وَ اللَّهُ یُحِبُّ الْمُحْسِنین การกล่าวซ้ำดังกล่าวมีจุดประสงค์ใด?
    27131 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/02/07
    ในแวดวงวิชาการมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องการย้ำคำว่าตักวาในโองการข้างต้นบ้างเชื่อว่ามีจุดประสงค์เพื่อให้เล็งเห็นความสำคัญของประเด็นเกี่ยวกับตักวาอีหม่านและอะมั้ลที่ศอลิห์
  • เมื่ออัลลอฮฺ มิทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายจากสิ่งใดทั้งหมด, หมายความว่าอำนาจของพระองค์ได้ถ่ายโอนไปสู่วัตถุปัจจัยกระนั้นหรือ?
    25204 รหัสยทฤษฎี 2555/05/17
    ใช่แล้ว การสร้างจากสิ่งไม่มีตัวตนมีความหมายตามกล่าวมา, เนื่องจากคำว่า ไม่มีตัวตน คือไม่มีอยู่ก่อนจนกระทั่งอัลลอฮฺ ทรงสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา รายงานฮะดีซก็กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้เช่นกันว่า อำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า มีความเป็นหนึ่งเดียวกันกับคุณลักษณะอื่นของพระองค์ ซึ่งเกินเลยอำนาจความรอบรู้ของมนุษย์ เนื่องจากสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลายได้ถูกสร้างขึ้นมา จากสิ่งไม่มี ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลาย เปรียบเสมือนภาพที่ถ่ายโอนอำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า เราเรียกนิยามนี้ว่า “การสะท้อนภาพ”[1]ซึ่งในรายงานฮะดีซได้ใช้คำว่า “การเกิดขึ้นของคุณลักษณะ” : อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงเป็นพระผู้อภิบาลของเราที่มีความเป็นนิรันดร์ ความรอบรู้คือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีความรอบรู้อันใด การได้ยินคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการได้ยินใดๆ การมองเห็นคือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการมองเห็นอันใด อำนาจคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีอำนาจอันใด และเนื่องจากพระองค์คือ ผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลาย ทำให้สิ่งเหล่านั้นมีและเป็นไป ความรู้ของพระองค์ได้ปรากฏบนสิ่งถูกรู้จักทั้งหลาย การได้ยิน ได้ปรากฏบนสิ่งที่ได้ยินทั้งหลาย การมองเห็นได้ปรากฏบนสิ่งมองเห็น และอำนาจของพระองค์ ...