การค้นหาขั้นสูง
ผู้เยี่ยมชม
11215
อัปเดตเกี่ยวกับ: 2554/06/21
 
รหัสในเว็บไซต์ fa959 รหัสสำเนา 14618
คำถามอย่างย่อ
ทำอย่างไรจึงจะฝันเห็นท่านเราะซูล(ซ.ล.)
คำถาม
ผมอยากฝันเห็นท่านเราะซูลุลลอฮ์และดื่มด่ำกับความปรารถนาสูงสุด ผมควรทำอย่างไรบ้าง?
คำตอบโดยสังเขป

ในหนังสือมะฟาตีฮุลญินาน(เล่มสมบูรณ์)มีซิเกรและอะมั้ลที่ทำให้สามารถฝันเห็นเอาลิยาอ์ของอัลลอฮ์ได้ อย่างไรก็ดี วิธีเหล่านี้ไม่อาจจะเป็นมูลเหตุสมบูรณ์ที่ทำให้สามารถฝันเห็นบุคคลที่เราต้องการเสมอไป กล่าวคือ ไม่ไช่ว่าทุกคนจะสามารถฝันเห็นท่านศาสดาด้วยอะมั้ลเหล่านี้ได้ ทั้งนี้ก็เนื่องจากทักษะดังกล่าวจำเป็นต้องควบคู่กับการหยุดทำบาป และปฏิบัติศาสนกิจภาคบังคับอย่างเคร่งครัด ตลอดจนต้องมีจิตใจอันบริสุทธิเพียงพอเสียก่อน.

คำตอบเชิงรายละเอียด

ก่อนจะตอบคำถามข้างต้น ขออธิบายเกี่ยวกับความฝันและประเภทต่างๆของความฝันโดยสังเขปเสียก่อน
นักวิชาการพยายามนำเสนอบทวิเคราะห์อันยืดยาวเพื่ออธิบายเกี่ยวกับการฝันของมนุษย์ บ้างเชื่อว่าความฝันเกิดจากการไหลเวียนของเลือดจากสมองสู่อวัยวะต่างๆในร่างกาย ชุดคำอธิบายนี้อ้างอิงมูลเหตุทางฟิสิกข์
บ้างเชื่อว่ากิจกรรมต่างๆในรอบวันของคนเราก่อให้เกิดสารพิษในร่างกาย และสารพิษเหล่านี้ทำปฏิกิริยาต่อระบบประสาท ทำให้เกิดจินตภาพที่เราเรียกว่าฝันปฏิกิริยาดังกล่าวจะดำเนินต่อไปจนกระทั่งสารพิษเหล่านั้นถูกร่างกายดูดซึมจนหมด ชุดคำอธิบายนี้อ้างอิงมูลเหตุทางชีวะเคมี
บางกลุ่มเชื่อว่าความฝันเกิดจากมูลเหตุทางระบบประสาทโดยแจกแจงว่า ความฝันเกิดจากการที่กลไกพิเศษของระบบประสาทที่อยู่ในสมอง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องของร่างกายนั้น หยุดทำงานไปเนื่องจากความเหนื่อยล้า

แม้ไม่อาจปฏิเสธอิทธิพลของปัจจัยเหล่านี้ได้โดยสิ้นเชิง แต่อย่างไรก็ดี ปัจจัยเหล่านี้ก็ไม่อาจไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความฝันให้กระจ่างได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
สาเหตุที่นักวิชาการในปัจจุบันไม่สามารถอธิบายความฝันได้อย่างกระจ่างชัดทุกแง่มุมนั้น เกิดจากการที่พวกเขาเน้นแนวคิดวัตถุนิยมเป็นหลัก พวกเขาพยายามจะอธิบายข้อเท็จจริงนี้โดยละเลยที่จะยอมรับความจริงเกี่ยวกับจิตวิญญาณมนุษย์  ซึ่งหากพิจารณาจะพบว่าความฝันเกิดจากปัจจัยทางจิตวิญญาณมากกว่าปัจจัยทางชีวภาพ หากเป็นเช่นนี้ ก็ไม่สามารถจะอธิบายความฝันได้โดยไม่ศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณอีกต่อไป
กุรอานได้นำเสนอคำนิยามอันละเอียดละออที่สุดเกี่ยวกับความฝัน โดยกล่าวว่า ความฝันก็คือการกู้คืนวิญญาณประเภทหนึ่ง กล่าวคือ ความฝันเกิดจากการจำกัดอิทธิพลที่วิญญาณมีต่อร่างกาย แต่ไม่ถึงขั้นยุติอิทธิพลดังกล่าว
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อวิญญาณถูกจำกัดรัศมีที่ส่องสว่างแก่ร่างกายให้เหลือเพียงแสงเทียนสลัวๆ ระบบการรับรู้ของร่างกายก็จะหยุดทำงานชั่วคราว ทำให้ผู้ที่นอนหลับไม่มีความรู้สึกหรือความเคลื่อนไหวเช่นปกติ แม้ว่าระบบต่างๆที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเช่น ระบบหายใจ ระบบสูบฉีดเลือด ฯลฯ ยังต้องทำงานอยู่เหมือนเดิม.[1]

จึงสรุปได้ว่าในระหว่างความฝัน ระบบสมองส่วนหนึ่งจะหยุดทำงาน[2] หาได้หยุดทำงานทั้งระบบไม่ ด้วยเหตุนี้เองที่ฮะดีษต่างๆนิยามความฝันว่าเป็นพี่น้องความตาย[3]
ฮะดีษจากอิมามอลีบทหนึ่งกล่าวไว้ว่าการนอนหลับทำให้ปลอดทุกข์โศก และมีคุณสมบัติเทียบเคียงความตาย[4]
โดยทั่วไปแล้ว สามารถแบ่งความฝันออกเป็นสามประเภท
หนึ่ง, ความฝันที่มีความหมายชัดเจนไม่จำเป็นต้องทำนายฝัน
สอง, ความฝันที่สับสนยุ่งเหยิง ซึ่งไม่อาจนำมาทำนายฝันได้
สาม, ความฝันที่จิตของมนุษย์แสดงผลเป็นรหัสหรือในลักษณะอุปมาอุปไมย ความฝันประเภทนี้แหล่ะที่มีการทำนายฝันกัน[5]

หลังจากทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับความฝันแล้ว ก็พอจะทราบว่ามนุษย์สามารถท่องไปในโลกแห่งมิษาลและอักล์ เพื่อเข้าพบเอาลิยาอ์ของอัลลอฮ์ได้ กล่าวคือ เมื่อคนเรานอนหลับก็จะเชื่อมต่อกับโลกแห่งมิษาลและอักล์อันสอดคล้องกับลักษณะเฉพาะตัวของวิญญาณ ทำให้สามารถเห็นและรับรู้ปรากฏการณ์บางอย่างตามแต่ศักยภาพของแต่ละคนจะอำนวย[6] ด้วยเหตุนี้ หากมีบันทึกในอัตชีวประวัติของผู้บำเพ็ญกุศลอย่างท่านชะฮีด มุเฏาะฮะรี ว่าท่านเคยได้รับเกียรติในเรื่องนี้[7] ก็ไม่ไช่เรื่องน่าฉงนใจแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงว่า
หนึ่ง ไม่ไช่ว่าทุกคนจะสามารถควบคุมความฝันของตนให้นำพาสู่การพบเจอบุคคลที่ต้องการพบเสมอไป
สอง ในตำราดุอาอย่างเช่นมะฟาตีฮุลญินาน[8]จะมีอะมั้ลที่จะส่งผลให้สามารถฝันเห็นท่านนบี(..)ได้[9] แม้ปฏิเสธไม่ได้ว่าอะมั้ลดังกล่าวย่อมมีส่วนให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ แต่ทั้งนี้ก็หาได้เป็นมูลเหตุสมบูรณ์ที่ทำให้ฝันเห็นท่านนบี(..)ในลักษณะที่หากทำอะมั้ลดังกล่าวแล้วจะต้องได้เห็นท่านนบีในฝันกันโดยถ้วนหน้าไม่ ทั้งนี้ก็เนื่องจากการที่จะฝันเห็นนบีต้องมีเงื่อนไขอื่นๆอีก อาทิเช่น การหยุดทำบาป, เคร่งครัดในศาสนกิจภาคบังคับ และความผ่องใสทางจิตวิญญาณ ต่อเมื่อมีครบทุกเงื่อนไขเท่านั้น จึงจะสามารถฝันเห็นท่านศาสดาได้ นั่นเป็นเพราะว่าผู้ที่มีจิตใจผ่องแผ้วปราศจากกิเลศเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จดังใจหมาย

อย่างไรก็ดี หากคุณปฏิบัติอะมั้ลดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ได้เห็นศาสดาในฝันตามที่ปรารถนา แน่นอนว่าอัลลลอฮ์จะทรงประทานผลรางวัลอื่นชดเชยให้ ทั้งนี้ก็เนื่องจากทั้งความหวังที่จะได้พบท่านนบี รวมถึงอะมั้ลในตำราดุอาซึ่งอุดมไปด้วยซิกรุลลอฮ์นั้น ล้วนมีผลบุญ  พระองค์ทั้งสิ้น
เกร็ดน่ารู้ส่งท้ายก็คือ วิธีที่จะทำให้ฝันเห็นท่านศาสดา(..)มิได้จำกัดเฉพาะอะมั้ลดังกล่าว เนื่องจากยังมีวิธีอื่นๆที่มีผลลัพธ์ดังกล่าวเช่นกัน อย่างเช่น การตะวัสสุ้ลผ่านเอาลิยาอ์ของอัลลอฮ์ ในชีวประวัติของท่านอายะตุลลอฮ์ อัลอุซมา มัรอะชี นะญะฟี บันทึกไว้ว่า คืนหนึ่งท่านได้ตะวัสสุ้ลเพื่อหวังจะเห็นหนึ่งในเอาลิยาอ์ของอัลลอฮ์ในฝัน แล้วท่านก็ฝันเห็นท่านอมีรุ้ลมุอ์มินีน อลี ดังใจหมาย ซึ่งเหตุการณ์นี้ผูกโยงกับเหตุการณ์ที่นักกวีนามระบือชะฮ์ริย้อรแต่งโคลงกลอนยกย่องท่านอิมามอลีในคืนเดียวกันนั้น.[10]



[1] ดู: ตัฟซีรเนมูเนะฮ, เล่ม19, หน้า 482และ 483.

[2] อายะฯ มะการิม ชีรอซี, มะอ้าดและโลกหลังความตาย หน้า 385.

[3] วลีالنوم اخو الموتใน, อะวาลี อัลละอาลี, เล่ม 4, หน้า 73.

[4] วลีالنوم راحة من الم و ملائمة الموتใน, ฆุร่อรุ้ล ฮิกัม, ฮะดีษที่ 1461.

[5] ตัฟซีรอัลมีซานฉบับแปลฟารซี, เล่ม 11, หน้า 372.

มีฮะดีษรายงานจากท่านนบี(..)ว่า ความฝันแบ่งเป็นสามประเภท. ข่าวดีจากอัลลอฮ์ การเผยสถานะของจิต ความหวาดกลัวที่ชัยฏอนก่อขึ้นالرویا الثلاثه: فبشری من الله و حدیث النفس و تخویف الشیطانกันซุ้ล อุมม้าล, 41385.

และมีฮะดีษรายงานจากท่านอิมามศอดิกว่า คราใดที่บ่าวของพระองค์ประสงค์จะทำบาป แต่พระองค์ยังประสงค์ให้เขาเป็นคนดี พระองค์จะทรงบันดาลให้เขาฝันร้ายเพื่อจะได้หวั่นเกรงไม่กล้าทำบาป
اذ کان العبد علی معصیه الله عز و جل و اراد الله به خیرا اراه فی منامه رویا تروعه و فینزجرها عن تلک المعصیهอัลอิคติศ้อศ, หน้า 24.

[6] ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ดู: อัลมีซานฉบับแปลฟารซี, เล่ม 11, หน้า 366-373.

[7] ภรรยาของท่านเล่าว่าคืนหนึ่ง ท่านตกใจตื่นขึ้นมากลางดึก ฉันถามท่านว่าเกิดอะไรขึ้นหรือย่างไร? ท่านตอบว่า ฉันฝันว่าได้เข้าพบท่านเราะซูลลุลลอฮ์(..)พร้อมกับท่านอิมามโคมัยนี ฉันเอ่ยต่อท่านนบีว่า โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ท่านนี้(อิมามโคมัยนี)คือหนึ่งในบุตรหลานของท่าน. ท่านนบีได้สวมกอดท่านอิมามโคมัยนี แล้วจึงหันมาโอบกอดฉัน และได้จุมพิตริมฝีปากโดยที่ฉันยังจำไออุ่นของริมฝีปากท่านได้ ฉันคิดว่าคงจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเป็นแน่. ภรรยาของท่านเล่าต่อว่าสามวันต่อมาท่านก็ถูกลอบยิงเป็นชะฮีด

[8] ภาคผนวกมะฟาตีฮุลญินาน, หมวดบากิยาตุศศอลิฮาต.

[9] อ่านซูเราะฮ์ อัชชัมส์, อัลลัยล์, ก็อดร์, กาฟิรูน, กุ้ลฮุวัลลอฮ์, นาส และ ฟะลัก (สี่กุ้ล)อย่างละหนึ่งจบ และหลังจากนั้นอ่านกุ้ลฮุวัลลอฮ์ 100 จบ และศอละวาต 100 ครั้ง จากนั้นจึงนอนตะแคงขวาขณะยังมีน้ำนมาซ.

[10] ฮุเซน ซะบูรี, ชะฮ์ริย้อรของเรา, พิมพ์ปี 1381.

แปลคำถามภาษาต่างๆ
ความเห็น
จำนวนความเห็น 0
กรุณาป้อนค่า
ตัวอย่าง : Yourname@YourDomane.ext
กรุณาป้อนค่า
<< ลากฉัน
กรุณากรอกจำนวนที่ถูกต้องของ รหัสรักษาความปลอดภัย

หมวดหมู่

คำถามสุ่ม

  • เพราะสาเหตุใดส่วนแบ่งมรดกของสตรีจึงได้เพียงครึ่งหนึ่งของชาย ?
    9958 สิทธิและกฎหมาย 2554/04/21
    หนึ่งในสาเหตุที่ส่วนแบ่งมรดกของฝ่ายชายมากกว่าฝ่ายหญิงคือเรืองค่าเลี้ยงดูของหญิงอยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายชายกล่าวคือฝ่ายชายนอกจากจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของตนแล้วยังมีหน้าที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายประจำวันของฝ่ายหญิงและบรรดาลูกๆอีกด้วยอีกด้านหึ่งฝ่ายชายต้องเป็นผู้จ่ายมะฮฺรียะฮฺส่วนฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายรับมะฮฺรียะฮฺนั้นตามความเป็นจริงสามารถกล่าวได้ว่าสิ่งที่ฝ่ายหญิงได้รับในฐานะของมรดกหรือมะฮฺรียะฮฺนั้นก็คือทรัพย์สะสมขณะที่ส่วนแบ่งมรดกของฝ่ายชายถูกใช้ไปเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของตนของภรรยาและบรรดาลูกๆนอกจากนี้แล้ว
  • ถ้าหากเป็นการแต่งงานชั่วคราว (มุตอะฮฺ) และฝ่ายชายได้เป็นตัวแทนฝ่ายหญิง เพื่ออ่านอักด์ แต่มิได้บอกกำหนดเวลาและจำนวนมะฮฺรียะฮฺ ถือว่าอักด์ถูกต้องหรือไม่?
    9187 สิทธิและกฎหมาย 2555/01/23
    คำตอบจากมัรญิอฺตักลีดบางท่านกล่าวว่า ..สำนักฯพณฯท่านผู้นำอายะตุลลอฮฺอัลอุซมาคอเมเนอี (ขออัลลอฮฺ
  • การนอนในศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นบริเวณฮะร็อมมีฮุกุมอย่างไร?
    5057 สิทธิและกฎหมาย 2554/11/19
    ฮะร็อม(บริเวณสุสาน)ของบรรดาอิมามตลอดจนศาสนสถานถือเป็นสถานที่ที่มุสลิมให้เกียรติมาโดยตลอดเนื่องจากการแสดงความเคารพสถานที่เหล่านี้ถือเป็นการให้เกียรติบรรดาอิมามและบุคคลสำคัญต่างๆที่ฝังอยู่ณสุสานดังกล่าวฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่ส่อไปในทางลบหลู่ดูหมิ่นสถานที่เหล่านี้เท่าที่จะทำได้แต่ทว่าในแง่ของฟิกฮ์การนอนในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นมัสยิด, ฮะร็อมฯลฯถือว่าไม่เป็นที่ต้องห้ามนอกจากคนทั่วไปจะมองว่าการนอนในสถานที่ดังกล่าวเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่ซึ่งในกรณีนี้เนื่องจากวิถีประชาเห็นว่าการกระทำนี้เป็นสิ่งที่ไม่บังควรก็จะถึอว่าไม่ควรกระทำไม่ว่าสถานที่เหล่านั้นจะเป็นมัสยิดหรือฮะร็อมของบรรดาอาอิมมะฮ์ฯลฯก็ตาม
  • ทำไมจึงเรียกการไว้อาลัยแด่ซัยยิดุชชูฮะดาว่า การอร่านร็อวเฎาะฮ์?
    5712 تاريخ کلام 2554/12/10
    สำนวน “ร็อวเฎาะฮ์” เกิดขึ้นเนื่องจากการนำบทต่างๆในหนังสือ “ร็อวเฎาะตุชชุฮะดา”มาอ่านโดยนักบรรยายหนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือเล่มแรกๆที่กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกัรบาลาซึ่งเขียนโดยมุลลาฮุเซนกาชิฟซับซะวอรี (เกิด 910 ฮ.ศ.) เป็นหนังสือภาษาฟาร์ซีหนังสือเล่มนี้ใช้อ่านในการไว้อาลัยมาเป็นเวลาช้านานแล้วดังนั้นพิธีต่างๆที่มีการไว้อาลัยจึงเรียกว่าการร็อวเฎาะฮ์ถึงปัจจุบัน
  • ความตายจะเกิดขึ้นในสวรรค์หรือนรกหรือไม่?
    6761 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/08/15
    โองการกุรอานฮะดีษและเหตุผลเชิงสติปัญญาพิสูจน์แล้วว่าหลังจากที่มนุษย์ขึ้นสวรรค์และลงนรกแล้วความตายจะไม่มีความหมายอีกต่อไป กุรอานขนานนามวันกิยามะฮ์ว่า “เยามุ้ลคุลู้ด”(วันอันเป็นนิรันดร์) และยังกล่าวถึงคุณลักษณะของชาวสวรรค์ว่า “คอลิดีน”(คงกระพัน) ส่วนฮะดีษก็ระบุว่าจะมีสุรเสียงปรารภกับชาวสวรรค์และชาวนรกว่า “สูเจ้าเป็นอมตะและจะไม่มีความตายอีกต่อไป(یا اهل الجنه خلود فلاموت و یا اهل النار خلود فلا ...
  • ภารกิจของท่านอิมามมะฮฺดียฺ (อ.) หลังจากปรากฏกายแล้วคืออะไร? แล้วเป็นไปได้ไหมที่ท่านจะถูกทำชะฮาดัตโดยน้ำมือของสตรีชราที่มีนวดเครา?
    5957 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/04/21
    ในเวลานั้นท่านอิมามมะฮฺดียฺ (อ.) จะได้รับอนุญาตจากอัลลอฮฺให้จัดตั้งทั้งด้านวัตถุปัจจัยและด้านคุณธรรมมโนธรรมเพื่อจะได้จัดตั้งรัฐบาลแห่งความยุติธรรมขึ้นมาปกครองโลกซึ่งถือว่าเป็นรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดบนโลกนี้ ท่านจะเป็นผู้สนับสนุนส่งเสริมเกียรติและคุณค่าของความเป็นมนุษย์พร้อมกับเรียกร้องไปสู่ความปลอดภัยชีวิตมนุษย์จะกลายเป็นชีวิตแห่งพระเจ้าในเวลานั้นท่านอิมามมะฮฺดียฺ (อ.)
  • เพราะสาเหตุอันใด มนุษย์จึงลืมเลือนอัลลอฮฺ?
    8254 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/10/22
    การหยุแหย่ของชัยฏอนมารร้าย,เกี่ยวข้องทางโลกเท่านั้นอันเป็นความผิดที่เกิดจากความหลงลืมองค์พระผู้อภิบาลซึ่งในทางตรงกันข้ามนมาซ, กุรอาน, การใคร่ครวญในสัญลักษณ์ต่างๆของพระเจ้าการใช้ประโยชน์จากเหตุผลและข้อพิสูจน์
  • ฮะดีษที่กล่าวว่า ท่านศาสดา (ซ.ล.) กล่าวว่า “จงทานแอปเปิ้ลเมื่อท้องว่าง (ในช่วงเช้า) เพราะจะช่วยชำระล้างกระเพาะ” เป็นฮะดีษที่ถูกต้องหรือไม่?
    10386 ดิรอยะตุลฮะดีซ 2555/06/23
    แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่นอกจากจะมีประโยชน์ทางด้านสารอาหารแล้ว ยังมีสรรพคุณทางด้านการรักษาและเป็นยาอีกด้วย ซึ่งเหล่าบรรดาแพทย์ทั้งสมัยก่อนและสมัยใหม่ได้กล่าวและเขียนเกี่ยวกับมันมากมาย เกี่ยวกับประโยชน์และสรรพคุณของแอปเปิ้ล นอกจากทัศนะของเหล่าบรรดาแพทย์ทั้งหลายแล้ว เราจะพบฮะดีษบางบทจากบรรดามะอ์ศูมีนในหนังสือทางประวัติศาสตร์ด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือฮะดีษที่ได้กล่าวมาในคำถามข้างต้นที่กล่าวว่า “و قال النبی (ص) کلوا التفاح علی الريق فإنه وضوح المعده”[1] จงทานแอปเปิ้ลเมื่อท้องว่าง (ในยามเช้า) เพราะจะช่วยชำระล้างกระเพาะ” และฮะดีษนี้รายงานจากอิมามอลี (อ.) โดยมีเนื้อหาดังนี้ “كُلُوا التُّفَّاحَ فَإِنَّهُ يَدْبُغُ الْمَعِدَةَ” จงกินแอปเปิ้ล เนื่องจากแอปเปิ้ลจะช่วยชำระล้างกระเพาะ ฮะดีษดังกล่าวนอกจากจะปรากฏในหนังสือมะการิมุลอัคลากแล้ว ยังจะพบได้ในหนังสือบิฮารุลอันวารของท่านมัจลิซีย์และมุสตัดร็อกของท่านนูรีย์อีกด้วย นอกจากนี้ท่านอิมามศอดิก (อ.) ก็ได้กล่าวถึงสรรพคุณของแอปเปิ้ลว่า “หากประชาชนได้รู้ถึงสรรพคุณที่มีอยู่ในแอปเปิ้ล พวกเขาจะใช้แอปเปิ้ลรักษาผู้ป่วยของตนเพียงอย่างเดียว”
  • จะให้นิยามและพิสูจน์ปาฏิหาริย์ได้อย่างไร?
    8117 วิทยาการกุรอาน 2554/10/22
    อิอฺญาซหมายถึงภารกิจที่เหนือความสามารถของมนุษย์บุถุชนธรรมดาอีกด้านหนึ่งเป็นการท้าทายและเป็นภารกิจที่ตรงกับคำกล่าวอ้างตนของผู้ที่อ้างตนเองว่าเป็นผู้แสดงปาฏิหาริย์นั้นการกระทำที่เหนือความสามารถหมายถึงการกระทำที่แตกต่างไปจากวิสามัญทั่วไปซึ่งเกิดภายใต้เงื่อนไขและกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติภารกิจที่เหนือธรรมชาติหมายถึง
  • บุคลิกของอบูดัรดาอฺ เป็นเชนไร? อะฮฺลุลบัยตฺมีทัศนะอย่างไรกับเขา? รายงานที่เป็นมันกูลจากเขามีกฎเป็นอย่างไร?
    9241 تاريخ بزرگان 2555/04/07
    อุมัรบิน มาลิก เป็นลูกหลานที่สืบเชื้อสายมาจากเผ่า คัซร็อจญฺ ซึ่งส่วนใหญ่จะเรียกด้วยชื่อเล่นว่า อบูดัรดาอฺ เขาเป็นหนึ่งในเซาะฮาบะฮฺ (สหาย) ของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และอยู่ในฐานะของผู้สืบเชื้อสายมาจากเผ่าคัซร็อจญฺ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในมะดีนะฮฺ แต่หลังจากที่ท่านเราะซูล (ซ็อล ฯ) ได้เดินทางมามะดีนะฮฺได้ไม่นานนัก เขาก็เข้าพบท่านเราะซูล และได้ยอมรับอิสลาม อบูดัรดาอฺ คือผู้ที่ยืนยันว่าท่านอะลี (อ.) มีความดีและประเสริฐยิ่งกว่ามุอาวิยะฮฺมาก,เขาได้เข้าไปหามุอาวิยะฮฺพร้อมกับอบูฮุร็อยเราะฮฺ และเขาได้เชิญชวนมุอาวิยะฮฺให้เชื่อฟังปฏิบัติท่านอิมามอะลี (อ.), ครั้นเมื่อมุอาวิยะฮฺได้นำเอาเรื่องการสังหารอุสมานมาเป็นข้ออ้าง โดยอ้างว่าให้ท่านอิมามอะลีช่วยส่งคนสังหารอุสมานมาให้เขา หลังจากนั้นเขาได้ส่งอบูดัรดาอฺ และอบูฮุร็อยเราะฮฺมาหาท่านอิมาม อะลี (อ.) เพื่อขอตัวคนสังหารอุสมาน เพื่อสงครามการนองเลือดจะได้สิ้นสุดลง แล้วทั้งสองก็กลับมาหาท่านอิมามอะลี แต่ท่านมาลิกอัชตัรได้พบกับพวกเขาก่อน และได้ประณามพวกเขาอย่างรุนแรง พวกเขาจึงตัดสินใจไม่ไปพบท่านอิมามอะลีแล้ว, วันที่สองเมื่อความต้องการของพวกเขาได้แจ้งให้ท่านอิมามอะลี ได้รับทราบ พวกเขาจึงได้พบกับผู้จำนวนนับหมื่นคนแล้วประกาศแก่ทั้งสองว่า พวกเขานั่นแหละเป็นคนสังหารอุสมาน, ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทั้งสองสิ้นหวังและกลับไปยังเมืองของตน และได้รับการประณามหยามเหยียดจาก อับดุรเราะฮฺมาน บิน ...

เนื้อหาที่มีผู้อ่านมากที่สุด

  • อะไรคือหน้าที่ๆภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีบ้าง?
    59308 สิทธิและกฎหมาย 2554/07/07
    ความมั่นคงของชีวิตคู่ขึ้นอยู่กับความรักความผูกพัน ความเข้าใจ การให้เกียรติและเคารพสิทธิของกันและกัน และเพื่อที่สถาบันครอบครัวจะยังคงมั่นคงเป็นปึกแผ่น อิสลามจึงได้ระบุถึงสิทธิของทั้งภรรยาและสามี ขณะเดียวกันก็ได้กำหนดหน้าที่สำหรับทั้งสองฝ่ายไว้ด้วย เนื่องจากเมื่ออัลลอฮ์ประทานสิทธิ ก็มักจะกำหนดหน้าที่กำกับไว้ด้วยเสมอ ข้อเขียนนี้จะนำเสนอหน้าที่ทางศาสนาบางส่วนที่ภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีดังต่อไปนี้:1. ...
  • ดุอาใดบ้างที่ทำให้ได้รับพรเร็วที่สุด?
    56759 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/07/03
    มีดุอาที่รายงานจากอิมาม(อ.)หลายบทที่กล่าวขานกันว่าเห็นผลตอบรับอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาดุอาทั้งหมด ณ ที่นี้ได้ จึงขอกล่าวเพียงชื่อดุอาที่มีความสำคัญเป็นพิเศษดังต่อไปนี้1. ดุอาตะวัซซุ้ล2. ดุอาฟะร็อจ
  • กรุณานำเสนอบทดุอาเพื่อให้ได้พบคู่ครองที่เหมาะสมและเปี่ยมด้วยตักวา
    41584 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/06/12
    ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีปัจจัยและเงื่อนไขจำเพาะตามที่พระเจ้าทรงกำหนดหากเราประสงค์สิ่งใดย่อมต้องเริ่มจากการตระเตรียมปัจจัยและเงื่อนไขเสียก่อนปัจจัยของการแต่งงานคือการเสาะหาและศึกษาอย่างละเอียดทว่าเพื่อความสัมฤทธิ์ผลในการดังกล่าวจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์เพื่อทรงชี้นำการตัดสินใจและความพยายามของเราให้บรรลุดังใจหมาย.การอ่านบทดุอาต่างๆที่รายงานจากบรรดาอิมาม(อ)ต้องควบคู่กับความพยายามศึกษาและเสาะหาคู่ครองอย่างถี่ถ้วน. หนึ่งในดุอาที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะก็คือรายงานที่ตกทอดมาจากท่านอลี(อ)ดังต่อไปนี้: “ผู้ใดประสงค์จะมีคู่ครอง
  • ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์(นักเรียนนักศึกษา)มีหน้าที่ต่อกันอย่างไร?
    38350 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/11/14
    ผู้สอนและผู้เรียนมีหน้าที่ต่อกันหลายประการด้วยกันซึ่งสามารถจำแนกออกเป็นสองส่วนก. หน้าที่ที่ผู้สอนมีต่อผู้เรียนอันประกอบด้วยหน้าที่ทางจริยธรรมการอบรมและวิชาการ ข. หน้าที่ที่ผู้เรียนมีต่อผู้สอนอาทิเช่นการให้เกียรติครูบาอาจารย์ยกย่องวิทยฐานะของท่านนอบน้อมถ่อมตน ...ฯลฯ ...
  • ด้วยเหตุผลอันใดที่ต้องกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อน บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม?
    38324 วิทยาการกุรอาน 2555/08/22
    หนึ่งในมารยาทของการอ่านอัลกุรอาน ซึ่งมีกล่าวไว้ในอัลกุรอาน และรายงานฮะดีซคือ การกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อนที่จะเริ่มอ่านอัลกุรอาน หรือแม้แต่ให้กล่าวก่อนที่จะกล่าว บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม เสียด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุผลที่ว่า บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม นั้นเป็นส่วนหนึ่งของอัลกุรอาน อย่างไรก็ตามการขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ มิใช่แค่เป็นเพียงคำพูดเท่านั้น ทว่าสิ่งนี้จะต้องฝังลึกอยู่ภายในจิตวิญญาณของเรา ซึ่งต้องสำนึกสิ่งนี้อยู่เสมอตลอดการอ่านอัลกุรอาน ...
  • ก่อนการสร้างนบีอาดัม(อ) เคยมีการแต่งตั้งญินให้เป็นศาสนทูตสำหรับฝ่ายญินหรือไม่?
    33394 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/06/12
    อัลกุรอานยืนยันการมีอยู่ของเหล่าญินรวมทั้งได้อธิบายคุณลักษณะบางประการไว้ถึงแม้ว่าข้อมูลของเราเกี่ยวกับโลกของญินจะค่อนข้างจำกัดแต่เราสามารถพิสูจน์ว่าเหล่าญินเคยมีศาสนทูตที่เป็นญินก่อนการสร้างนบีอาดัมโดยอาศัยเหตุผลต่อไปนี้:1. เหล่าญินล้วนมีหน้าที่ทางศาสนาเฉกเช่นมนุษย์เราแน่นอนว่าหน้าที่ทางศาสนาย่อมเป็นผลต่อเนื่องจากการสั่งสอนศาสนาด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจได้ว่าอัลลอฮ์ทรงเคยแต่งตั้งศาสนทูตสำหรับกลุ่มชนญินเพื่อการนี้2. เหล่าญินล้วนต้องเข้าสู่กระบวนการพิพากษาในวันกิยามะฮ์เฉกเช่นมนุษย์เราซึ่งโดยทั่วไปแล้วก่อนกระบวนการพิพากษาทุกกรณีจะต้องมีการชี้แจงข้อกฏหมายจนหมดข้อสงสัยเสียก่อนและการชี้แจงให้หมดข้อสงสัยคือหน้าที่ของบรรดาศาสนทูตนั่นเอง
  • เนื่องจากอัลลอฮฺทรงรอบรู้เหนือโลกและจักรวาล ฉะนั้น วัตถุประสงค์การทดสอบของอัลลอฮฺคืออะไร?
    27490 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/03/08
    ดังที่ปรากฏในคำถามว่าการทดสอบของอัลลอฮฺไม่ได้เพื่อการค้นหาสิ่งที่ยังไม่รู้เนื่องจากอัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงปรีชาญาณเหนือทุกสรรพสิ่งแต่อัลกุรอานหลายโองการและรายงานที่ตกมาถึงมือเรากล่าวว่าการทดสอบเป็นแบบฉบับหนึ่งและเป็นกฎเกณฑ์ของพระเจ้าที่วางอยู่บนแบบฉบับอื่นๆอันได้แก่การอบบรมสั่งสอนการชี้นำโดยรวมของพระเจ้าอัลลอฮฺ
  • ปีศาจ (ซาตาน) มาจากหมู่มะลาอิกะฮฺหรือญิน ?
    27171 การตีความ (ตัฟซีร) 2553/12/22
    เกี่ยวกับคำถามที่ว่าชัยฎอนเป็นมะลาอิกะฮฺหรือญินมีมุมมองและทัศนะแตกต่างกันแหล่งที่มาของความขัดแย้งนี้เกิดจากเรื่องราวการสร้างนบีอาดัม (อ.) เนื่องจากเป็นคำสั่งของพระเจ้ามวลมะลาอิกะฮ์ทั้งหลายจึงได้กราบสุญูดอาดัมแต่ซาตานไม่ได้ก้มกราบบางคนกล่าวว่าชัยฎอน (อิบลิส) เป็นมะลาอิกะฮฺ, โดยอ้างเหตุผลว่าเนื่องจากโองการอัลกุรอานกล่าวละเว้น, อิบลิสไว้ในหมู่ของมะลาอิกะฮฺ (มะลาอิกะฮ์ทั้งหมดลดลงกราบยกเว้นอิบลิส) ดังนั้นอิบลิส
  • อายะฮ์ إِذا مَا اتَّقَوْا وَ آمَنُوا وَ عَمِلُوا الصَّالِحاتِ ثُمَّ اتَّقَوْا وَ آمَنُوا ثُمَّ اتَّقَوْا وَ أَحْسَنُوا وَ اللَّهُ یُحِبُّ الْمُحْسِنین การกล่าวซ้ำดังกล่าวมีจุดประสงค์ใด?
    27061 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/02/07
    ในแวดวงวิชาการมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องการย้ำคำว่าตักวาในโองการข้างต้นบ้างเชื่อว่ามีจุดประสงค์เพื่อให้เล็งเห็นความสำคัญของประเด็นเกี่ยวกับตักวาอีหม่านและอะมั้ลที่ศอลิห์
  • เมื่ออัลลอฮฺ มิทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายจากสิ่งใดทั้งหมด, หมายความว่าอำนาจของพระองค์ได้ถ่ายโอนไปสู่วัตถุปัจจัยกระนั้นหรือ?
    25139 รหัสยทฤษฎี 2555/05/17
    ใช่แล้ว การสร้างจากสิ่งไม่มีตัวตนมีความหมายตามกล่าวมา, เนื่องจากคำว่า ไม่มีตัวตน คือไม่มีอยู่ก่อนจนกระทั่งอัลลอฮฺ ทรงสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา รายงานฮะดีซก็กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้เช่นกันว่า อำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า มีความเป็นหนึ่งเดียวกันกับคุณลักษณะอื่นของพระองค์ ซึ่งเกินเลยอำนาจความรอบรู้ของมนุษย์ เนื่องจากสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลายได้ถูกสร้างขึ้นมา จากสิ่งไม่มี ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลาย เปรียบเสมือนภาพที่ถ่ายโอนอำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า เราเรียกนิยามนี้ว่า “การสะท้อนภาพ”[1]ซึ่งในรายงานฮะดีซได้ใช้คำว่า “การเกิดขึ้นของคุณลักษณะ” : อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงเป็นพระผู้อภิบาลของเราที่มีความเป็นนิรันดร์ ความรอบรู้คือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีความรอบรู้อันใด การได้ยินคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการได้ยินใดๆ การมองเห็นคือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการมองเห็นอันใด อำนาจคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีอำนาจอันใด และเนื่องจากพระองค์คือ ผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลาย ทำให้สิ่งเหล่านั้นมีและเป็นไป ความรู้ของพระองค์ได้ปรากฏบนสิ่งถูกรู้จักทั้งหลาย การได้ยิน ได้ปรากฏบนสิ่งที่ได้ยินทั้งหลาย การมองเห็นได้ปรากฏบนสิ่งมองเห็น และอำนาจของพระองค์ ...